วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 27,28,29,30,31,32,33,34 เมาแล้วขับ

ตอนที่ 27 เมาไม่ขับ 1

ประมาณร้อยละ 50 ของผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บนท้องถนนนั้น เป็นเพราะขับขี่ในขณะมึนเมา เช่นเดียวกันกับผู้ที่ บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรกว่าร้อยละ 50 ก็มาจากการดื่มสุรา จนไม่สามารถบังคับเครื่องยนต์ ไม่สามารถขับขี่ได้ มีงานวิจัย พิสูจน์แล้วว่า ระดับปริมาณแอลกอฮอล์ไนเลือดยิ่งสูงเท่าใดนั้น โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็ยิ่งทวีมากขึ้นตามไปด้วย เช่น ถ้าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเท่ากับ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 2 เท่า 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เพิ่มเป็น 3 เท่า 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เพิ่มเป็น 6 เท่า 150 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์เพิ่มเป็น 400 เท่า ดังนั้น ไม่ว่าจะดื่มนิด ดื่มน้อยอย่าขับ จะดีกว่า จะปลอดภัยสำหรับตัวเองและผู้อื่น


ตอนที่   28 เมาไม่ขับ 2

สาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น มาจากการที่ผู้ขับขี่ขับรถโดยไม่สามารถควบคุมกำลัง เครื่องยนต์ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเบรกแตก ถนนลื่น หรือขับ ด้วยความเร็วสูง แต่ที่ฉกาจฉกรรจ์รายแรงกว่านั้น ก็คือ การขับขี่ในขณะมึนเมา จะมึนเมาด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่ส่วนใหญ่ แล้วมักจะเกิดจากการเมาสุรา ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายวิธีที่จะ ตรวจสอบว่า เมาแค่ไหน เมาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือมี ปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือไม่  อยู่ 3 วิธีครับ คือ ตรวจเลือด ตรวจบัสสาวะ และตรวจลมหายใจ โดยการเป่าลมออกจากปากเข้าไปในเครื่องตรวจ ซึ่งจะบ่งซัด ถึงระดับแอลกอฮอล์ในเลือดและอย่าลืมว่าถ้าดื่มสุรา ห้ามขับโดยเด็ดขาด

ตอนที่ 29 เมาไม่ขับ 3

ใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่คนไทยมักจะเฉลิมฉลองกัน ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า การดื่มสุรานั้นไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย แต่บางคนก็อาจจะเถียงกลับว่าดื่มเพียงเล็กน้อย หรือนานๆ ดื่มทีคงไม่เป็นไร แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าการดื่มของท่านหรือนาน ๆ ดื่มเป็นการดื่มโดยที่ท่านไม่ต้องฃขับขี่คงจะไปห้ามปราม อะไรไม่ได้ แต่ถ้าออกไปดื่มเหล้าฉลองกันนอกบ้านโดย ขับรถไปเองใครจะกล้ายืนยันว่าขากลับจะกลับถึงบ้านไม่ต้อง ไปอยู่โรงพยาบาลหรือเข้าสุสาน ดังนั้น ถ้าดื่มจงงดการขับขี่ โดยให้เพื่อนที่ไม่ได้ดื่มขับแทนหรือเอาให้ชัวร์เรียกรถแท็กซี่ จะดีกวาปลอดภัยทั้งตัวเอง และคนอื่น ๆทีสัญจรไปมา บนท้องถนน

ตอนที่ 30 เมาไม่ขับ 4

จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนปี ๆ หนึ่ง ประมาณ 13,000 กว่าคน และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการ ที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะมึนเมา ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ได้ กฎหมายจราจรทางบก จึงได้ห้ามไว้อย่าง ชัดเจนว่าจะขับขี่ในขณะเมาสุราหรือเมาสิ่งของอย่างอื่นไม่ได้ และผู้ฝ่าฝืน คือ มีปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร็เซนต์ ก็มีโทษหนักทีเดียว คือ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2 พันถึงหนึ่งหมื่นบาท นั่นเป็นขั้นต่ำ เพราะดีไม่ดี อาจจะเจอสองเด้ง ทั้งจำทั้งปรับ ก็ได้ นี่เฉพาะแค่เมาแล้วขับเฉยๆ ยังไม่รวมเมาแล้วก่อให้เกิด อุบัติเหตุจริง ๆ โทษจะหนักยิ่งกว่านี้อีก

ตอนที่ 31 เมาไม่ขับ 5

อุบัติเหตุทีเกิดๆขึ้นบนท้องถนนกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลมาจากการที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะมึนเมา เพราะชะล่าใจ ไม่มีจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่ขอ เรียนท่านให้เข้าใจเสียใหม่ว่า ณ เวลานี้ภาครัฐจะเร่งกวดขัน จับกุมผู้ขับขี่ในขณะมึนเมาและจะใช้มาตรการลงโทษอย่าง เข้มงวด คือ อาจถึงขั้นจำคุก 3 เดือน หรือไม่อย่างนั้น ก็ถูก คุมประพฤติให้ทำงานบริการสังคม เพิ่มเติมจากโทษปรับสูงสุด ถึงหนึ่งหมื่นบาท แต่โทษทัณฑ์ตามกฎหมายไม่สำคัญเท่าสำนึก ต่อส่วนรวม ถ้าคิดจะดื่มเหล้าอย่าขับรถ ใช้บริการรถแท็กซี่ หรือติดรถเพื่อนจะดีกว่า ขอให้คิดถึงชีวิตของท่านและ คนรอบข้างของท่านด้วย

ตอนที่ 32 เมาแล้วขับ ไมใช่แค่ปรับ จะถูกจับคุมประพฤติ

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต ของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นหนุ่มสาว และที่เกิด อุบัติเหตุในการขับขี่นั้นกว่าครึ่งหนึ่งเกิดจากผู้ขับขี่มีอาการ เมาสุราและโดยมากมักจะเกิดในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หลายๆวัน เช่น เทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมจึงร่วมกับหลายหน่วยงาน รณรงค์ในโครงการ “เมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ปรับ จะถูกจับ คุมประพฤติ” มุ่งลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลต่างๆ ให้ผู้ขับขี่ ยานพาหนะไม่ดื่มสุราและขับขี่รถให้ถูกต้องตามกฎจราจร อย่างปลอดภัย โดยนำมาตรการคุมประพฤติและการทำงาน บริการลังคมมาใช้ ดังนั้น ก็ขอเตือนบรรดานักดื่มทั้งหลาย ดื่มน่ะดื่มไต้แต่อย่าขับขี่ก็แล้วกัน ถูกจับแน่

ตอนที่ 33 เมาแล้วขับ 1

เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน กฎหมายจราจรทางบกจึงได้กำหนดห้ามผู้ขับขี่มิให้ขับรถ ในขณะที่หย่อนความสามารถ เช่น ทำงานมาทั้งวันไม่ได้พักเลย แต่ก็ฝืนขับรถกลับบ้าน บางครั้งเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ และที่สำคัญห้ามขันขี่ในขณะเมาสุราหรือเมาสิ่งของอย่างอื่น สำหรับผู้ที่ง่วงอ่อนเพลียสุด ๆแล้วยังฝืนขับรถหรือขับรถ ขณะเมาสุรามีความผิดอาญาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สามเดือนหรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เหตุที่ยกเรื่องนี้มากล่าว ก็ด้วยความปรารถนาดี ปรามกันไว้ก่อน ไม่อยากให้บรรยากาศสงกรานต์ที่เปี่ยมไปด้วย ความสุขต้องกลายเป็นความทุกข์เพราะคำว่า เมาแล้วขับ

ตอนที่ 34 เมาแล้ว ขับ 2

วันมหาสงกรานต์ ก็ได้ยาถึงโทษทางอาญาของการเมา สุราแล้วฝ่าฝืนขับขี่ยวดยานพาหนะบนท้องถนนไปแล้วว่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับเมื่อก่อนศาลท่าน อาจจะใจดี ลงโทษแค่ปรับ แต่เดี๋ยวนี้ แม้เป็นการกระทำความ ผิดเมาแล้วขับเพียงครั้งแรก โทษไม่ใช่แค่ปรับเพียงอย่างเดียว แต่จะถูกจับคุมประพฤติเป็นเวลา 1  ปี โดยต้องมารายงานตัว กับพนักงานคุมประพฤติตามที่กำหนด และยังต้องร่วม ทำงานบริการสังคมอีกด้วย แต่ถ้าใครเคยถูกจับ ถูกปรับ หรือถูกคุมประพฤติเพราะเมาแล้วขับมาแล้ว ถ้ายังไม่เข็ดหลาบ เมาแล้วขับอีกละก็คราวนี้เห็นทีจะหนีไม่พ้นตะรางติดคุกแน่


ที่มา หนังสือ กฎหมายสามัญประจำบ้าน
โดย กระทรวงยุติธรรม มีนาคม 2552 


กลับหน้า เมนู กฎหมายสามัญประจำบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น